ต้นแดง

ต้นแดง

 

ต้นแดง

 

 

 

       แดง หรือ ต้นแดง ชื่อสามัญ Iron wood, Irul, Jamba, Pyinkado ต้นแดง ชื่อวิทยาศาสตร์ 

Xylia xylocarpa (Roxb.) Jaub. Var. kerrii (Craib & Hutch.) Nielsen (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Xylia kerrii Cruib & Hutch.) จัดอยู่ในวงศ์ถั่ว (Fabaceae หรือ Leguminosae) และยังจัดอยู่ในวงศ์ย่อยสีเสียด (Mimosoideae) เช่นเดียวกันกับกระถิน กระถินณรงค์ กระถินเทพา ชะเอมไทย ผักกระเฉด ไมยราบ สะตอ และเหรียง ไม้แดงมีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิด ซึ่งจะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน โดยชนิดแรกจะมีขนาดใหญ่มักขึ้นตามป่าเบญจพรรณ ส่วนอีกชนิดเป็นขนาดย่อมมักขึ้นตามป่าเต็งรัง

 

ลักษณะของต้นแดง

  • ต้นแดง จัดเป็นไม้ยืนต้นผลัดใบขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ มีความสูงของต้นได้ถึง 25 เมตร และบางครั้งอาจสูงได้ถึง 30-37 เมตร ลำต้นแดงค่อนข้างเปลาตรง หรือเป็นปุ่มปน ลักษณะของต้นเป็นทรงเรือนยอดรูปทรงกลม หรือเก้งก้างไม่ค่อยแน่นอน มีสีเขียวอมแดง เปลือกต้นเรียบสีเทาอมแดง มีตกสะเก็ดออกเป็นแผ่นกลมบางๆ รอบลำต้น และเมื่อสับเปลือกทิ้งไว้จะได้ชันที่มีสีแดง ส่วนยอดอ่อนมีขนสีเหลืองปกคลุมอยู่ การเพาะต้นแดง วิธีที่นิยมกันก็คือการขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด เพราะสามารถจะผลิตกล้าได้เป็นจำนวนมาก ส่วนวิธีอื่นๆ นั้นยังไม่ได้มีการนำมาใช้กัน
  • ไม้แดง มีเนื้อไม้มีสีแดงเรื่อๆ หรือเป็นสีน้ำตาลอมแดง มีเสี้ยนเป็นลูกคลื่นหรือมักสน เนื้อไม้ละเอียดพอประมาณ มีความแข็งแรง เหนียวและทนทานมาก สามารถเลื่อยไสกบ ตบแต่งได้เรียบร้อย ขัดชักเงาได้ดี โดยมีความถ่วงจำเพาะประมาณ 1.18 และเนื้อไม้มีความแข็งประมาณ 1,030 กิโลกรัม มีความทนทานตามธรรมชาติตั้งแต่ 10-18 ปี ส่วนการอาบน้ำยาไม้ทำได้ยาก (ชั้นสี่)
  • ใบต้นแดง ออกเป็นช่อแบบขนนกสองชั้น ช่อใบยาวประมาณ 10-22 เซนติเมตร ส่วนก้านใบยาวประมาณ           2-7 เซนติเมตร ในแต่ละช่อใบจะมีใบย่อยประมาณ 4-5 คู่ ลักษณะของใบย่อยเป็นรูปไข่หรือรูปไข่แกมรูปขอบขนาน แผ่นใบมักเบี้ยวและมีขนาดไม่เท่ากัน มีความกว้างประมาณ 3-7 เซนติเมตร และยาวประมาณ 7-20 เซนติเมตร ปลายใบแหลมมน ส่วนฐานใบมักเบี้ยว ใบแก่จะไม่มีขนปกคลุม หรืออาจมีบ้างประปรายด้านท้องใบเล็กน้อย ส่วนก้านใบย่อยจะยาวประมาณ 2-4 มิลลิเมตร
  • ดอกต้นแดง ดอกมีสีเหลืองขนาดเล็ก มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ขึ้นอัดกันแน่นเป็นช่อกลมเดี่ยวๆ หรือแตกกิ่งก้าน หรือขึ้นเป็นกลุ่ม ในแต่ละช่อดอกมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.4 เซนติเมตร ส่วนก้านช่อดอกยาวประมาณ           2-5 เซนติเมตร มีขนขึ้นปกคลุมประปราย ส่วนกลีบรองกลีบดอกจะเชื่อมติดกันเป็นรูประฆัง ตรงปลายแยกออกเป็นกลีบ 5 กลีบ มีขนสีเหลืองขึ้นปกคลุม กลีบดอก 5 กลีบ ติดกันเล็กน้อยที่บริเวณฐาน และมีเกสรตัวผู้ 10 อัน แยกออกจากกันอย่างอิสระยื่นยาวออกมานอกดอก โดยดอกต้นแดงนี้จะออกดอกพร้อมกับใบอ่อนในช่วงเดือนกุมภาพันธุ์ และอาจถึงเดือนมีนาคม
  • ผลต้นแดง หรือ ฝักต้นแดง ผลมีลักษณะเป็นฝักแบนแข็ง ลักษณะเป็นรูปขอบขนานเรียวและโค้งงอที่ส่วนปลาย ฝักมีความยาวประมาณ 7-10 เซนติเมตร ผิวฝักเรียบมีสีน้ำตาลอมเทา ไม่มีขนขึ้นปกคลุมและไม่มีก้าน เมื่อฝักแก่จะแตกออกเป็น 2 ซีก และเปลือกของฝักที่แตกมักจะม้วนบิดงอ ในหนึ่งฝักจะมีเมล็ดจำนวนหลายเมล็ด ประมาณ       6-10 เมล็ด โดยฝักจะแก่ในช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคม
  • เมล็ดต้นแดง เมล็ดมีลักษณะแบนเรียวแหลม ยาวรีหรือเกือบกลม เมล็ดมีสีน้ำตาลเป็นมัน มีความกว้างประมาณ 0.35-0.5 นิ้ว และยาวประมาณ 0.4-0.7 นิ้ว เปลือกหุ้มเมล็ดแข็งพอประมาณ หากเมล็ดมีความสมบูรณ์ดีจะงอกได้ทันที แม้จะเก็บไว้ในระยะ 1 ปี ก็ยังคงงอกได้ดีเช่นเดิม

 

 

 

 

 

 

สรรพคุณของต้นแดง

  1. เปลือกมีรสฝาด มีสรรพคุณช่วยสมานธาตุ (เปลือก)
  2. ช่วยบำรุงหัวใจ (ดอก)
  3. ต้นแดง สรรพคุณแก่นบำรุงโลหิต (แก่น)
  4. แก่นนำมาใช้ผสมยาแก้ซางโลหิต (แก่น)
  5. ช่วยแก้โรคกษัย (แก่น)
  6. ช่วยแก้พิษโลหิต ช่วยดับพิษ แก้ไข้กาฬ (แก่น)
  7. ดอกนำมาใช้ผสมเป็นยาแก้ไข้ (ดอก)
  8. สรรพคุณต้นแดง แก่นช่วยแก้ไข้ท้องเสีย (แก่น)
  9. ช่วยแก้อาการท้องร่วง (เปลือก)
  10. ช่วยแก้อาการปวดอักเสบของฝีชนิดต่างๆ (แก่น)

 

 

 

 

 

 

ประโยชน์ของต้นแดง

  1. ประโยชน์ต้นแดง สามารถนำมาปลูกเพื่อใช้ตกแต่งบริเวณอาคารสถานที่ได้ โดยนำมาปลูกเป็นกลุ่มในสวนสาธารณะหรือในที่โล่งแจ้ง
  2. การปลูกต้นแดงมีประโยชน์ทางด้านนิเวศน์ เนื่องจากจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและช่วยรักษาความอุดมสมบูรณ์ของดิน ช่วยปรับปรุงสภาพสิ่งแวดล้อม ช่วยชะลอการพังทลายของหน้าดินโดยเฉพาะดินร่วน ดินทราย เนื่องจากไม้แดงมีระบบลากลึกและแผ่กว้าง นอกจากนี้ยังเหมาะในการนำมาปลูกเพื่อปรับปรุงสภาพป่าเสื่อมโทรม วนเกษตร ในป่าชุมชนดั้งเดิมและป่าปลูกใหม่
  3. เมล็ด สามารถนำมารับประทานได้
  4. ไม้แดงเป็นไม้ที่ค่อนข้างแข็งแรง มีความทนทาต่อการกระแทกสูง เพรียงและปลวกไม่ค่อยทำลาย และเป็นไม้ที่ทนไฟในตัว การใช้ประโยชน์จากไม้แดงจึงนิยมนำมาใช้ในการก่อสร้างอาคารบ้านเรือน เช่น ใช้ทำเสาบ้าน รอดตง ขื่อ ไม้ปาร์เก้ กระดานพื้น ฝา ฯลฯ หรือจะนำมาทำเรือข้างกระดาน เรือสำเภา เรือใบ ทำสะพาน ทำหมอนรางรถไฟ ใช้ทำด้ามเครื่องมือต่างๆ ทำหูกและกระสวย ด้ามหอก ไม้คาน ไม้สำหรับกลึง ทำคันไถ คราด ครก สาก กระเดื่อง ทำส่วนต่างๆ ของเกวียน ทำลูกหีบ ฟันสีขาว ฯลฯ หรือนำมาใช้ในงานแกะสลัก ทำเครื่องเรือนและไม้บุผนังให้มีความสวยงาม
  5. ไม้แดงมีคุณสมบัติที่เหมาะสมในการทำเป็นถ่านและไม้ฟืนได้ดี เพราะไม้แดงมีกิ่งก้านมากพอสมควร โดยถ่านจากไม้นั้นจะให้ค่าความร้อนสูงถึง 7,384 แคลอรีต่อกรัม

 

 

 

 

Credit : http://www.greenerald.com

 3780
ผู้เข้าชม

สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์