เพกา จัดอยู่ในวงศ์แคหางค่าง (Bignoniaceae) เช่นเดียวกันกับแคหางค่าง แคทะเล แคนา แคแสด แคหัวหมู น้ำเต้าต้นปีบ รุ่งอรุณ และไส้กรอกแอฟริกา ต้นเพกา ภาษาจีนจะเรียกว่า “โชยเตียจั้ว” และยังมีชื่อท้องถิ่นอื่นๆ อีก เช่น
ลิ้นฟ้า (จังหวัดเลย, ภาคอีสาน), กาโด้โด้ง (จักหวัดกาญจนบุรี), ดุแก ดอก๊ะ ด๊อกก๊ะ (จังหวัดแม่ฮ่องสอน), มะลิ้นไม้ มะลิดไม้ ลิดไม้ (ภาคเหนือ), เบโด (จังหวัดนราธิวาส)
เพกา จัดเป็นไม้ยืนต้นและเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่งที่มีถิ่นกำเนิดในอินเดียแลเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และรวมถึงประเทศไทยบ้านเราด้วย โดยพบได้ตามป่าเบญจพรรณและป่าชื้นทั่วไป แม้ว่าต้นเพากาจะมีอยู่ในหลายๆ ประเทศ แต่มีเพียงประเทศไทยเท่านั้นที่นำเพกามารับประทานเป็นผัก (จัดอยู่ในหมวดดอกฝัก)
- ฝักอ่อนของเพกา ต่อหนัก 100 กรัม จะมีวิตามินซีถึง 484 มิลลิกรัม ซึ่งถือว่าสูงมากๆ และยังประกอบไปด้วยมีวิตามินเอสูงถึง 8,300 มิลลิกรัม (ซึ่งพอๆกับ ตำ ลึงเลยทีเดียว), ธาตุแคลเซียม 13 มิลลิกรัม, ธาตุฟอสฟอรัส 4 มิลลิกรัม, โปรตีน 0.2 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 14 กรัม, ไขมัน 0.5 กรัม, เส้นใย 4 กรัม
- ยอดอ่อนของเพกา ต่อน้ำหนัก 100 กรัม จะมี วิตามินบี1 0.18 มิลลิกรัม, วิตามินบี2 0.7 มิลลิกรัม, วิตามินบี3 2.4 มิลลิกรัม, โปรตีน 6.4 กรัม, ไขมัน 2.6 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 13 กรัม และให้พลังงาน 101 กิโลแคลอรี
เพกา มีสรรคุณเป็นยา ตามตำรายาสมุนไพรนั้น เราจะใช้ส่วนต่างๆ ของต้นเพกาตั้งแต่ ราก เปลือกต้น ฝัก ใบ รวมไปถึงเมล็ด ซึ่งจัดเป็นสมุนไพร “เพกาทั้ง 5” และหญิงตั้งครรภ์ไม่ควรรับประทานฝักอ่อนของเพกา เพราะอาจทำให้แท้งบุตรได้ เนื่องจากฝักของเพกามีฤทธิ์ร้อนมาก! ตามความเชื่อของคนโบราณนั้นห้ามปลูกเพกาไว้ในบริเวณบ้าน เนื่องจากฝักของเพกามีรูปร่างคล้ายดาบหรือปลายหอก อาจทำให้ผู้อยู่อาศัยมีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจเลือกตกยางออกได้ และเพกายังเป็นชื่อเรียกของเหล็กประดับยอดพระปรางค์ เนื่องจากมีรูปร่างคล้ายฝักของเพกา จึงถือว่าเป็นของสูงไม่คู่ควรแก่การนำมาปลูกไว้ในบ้าน แต่ถ้าจะไปปลูกไว้ตามไร่ตามสวน หรือรั้วบ้านก็คงจะไม่เป็นไร
สรรพคุณของเพกา
- สมุนไพรเพกาช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ช่วยชะลอการเสื่อมของเซล์ต่างๆในร่างกาย (ฝักอ่อน)
- ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย และช่วยชะลอวัย (ฝักอ่อน)
- ช่วยบำรุงและรักษาสายตา (ฝักอ่อน)
- ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งได้ (ฝักอ่อน)
- ใช้เป็นยาบำรุงธาตุ (ราก,ฝักอ่อน,เพกาทั้ง 5 ส่วน)
- ช่วยทำให้เจริญอาหาร (ราก,ใบ)
- ช่วยรักษาโรคเบาหวาน ด้วยการใช้ เปลือกเพกา เปลือกต้นไข่เน่า ใบไข่เน่า แก่นลั่นทม บอระเพ็ด ใบเลี่ยน รากหญ้าคา รวม 7 อย่าง น้ำหนักอย่างละ 2 บาท นำมาต้มกับน้ำดื่มครั้งละ 1 แก้วเล็ก ก่อนอาหาร เช้าและเย็น (เปลือก)
- การรับประทานฝักเพาหรือยอดอ่อนเพกาจะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในกระแสเลือดได้ (ฝัก,ยอดอ่อน)
- ช่วยบำรุงโลหิต (เปลือกต้น)
- ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต (เปลือกต้น)
- ช่วยขับเลือดดับพิษในโลหิต (เปลือกต้น)
- การกินฝักอ่อนของเพกาจะช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่น (ฝักอ่อน)
- ใช้แก้ร้อนใน (ฝักแก่)
- ช่วยบรรเทาอาการปวดไข้ ด้วยการใช้ใบเพกาต้มน้ำดื่ม (ใบ)
- สรรพคุณทางยาของเพกา ช่วยแก้ไข้สันนิบาต (ราก)
- ช่วยแก้ไข้เพื่อลม เพื่อเลือด (เพกาทั้ง 5 ส่วน)
- ช่วยแก้ละอองไข้ หรือโรคเยื่อเมือกในช่องจมูกอักเสบ (เปลือกต้นตำผสมกับสุรา)
- ช่วยแก้และบรรเทาอาการไอ ด้วยการใช้เมล็ดแก่เพกาประมาณครึ่งกำมือถึงหนึ่งกำมือ (1.5 – 3 กรัม) ใส่ในหม้อที่เติมน้ำ 300 มิลลิลิตร แล้วต้มไฟอ่อนๆ จนเดือดประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วนำมาดื่มครั้งละ 1 แก้ว เช้า กลางวัน เย็น จนกว่าอาการจะดีขึ้น (ฝัก อ่อน,เมล็ด)
- สรรพคุณเพกาช่วยขับเสมหะ ด้วยการใช้เมล็ดแก่เพกาประมาณครึ่งกำมือถึงหนึ่งกำมือ (1.5 – 3 กรัม) ใส่ในหม้อที่เติมน้ำ 300 มิลลิลิตร แล้วต้มไฟอ่อนๆ จนเดือดประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วนำมาดื่มครั้งละ 1 แก้ว เช้า กลางวัน เย็น จนกว่าอาการจะดีขึ้น (ฝักอ่อน,เปลือกต้น,เมล็ด)
- ช่วยแก้อาเจียนไม่หยุด ด้วยการใช้เปลือกต้นเพกาตำผสมกับน้ำส้มที่ได้จากรังมดแดงหรือเกลือสินเธาว์ (เปลือกต้นสด)
- ช่วยเรียกน้ำย่อย (ราก)
- ช่วยบรรเทาอาการแน่นหน้าอก (เมล็ด)
- ช่วยบำรุงกระเพาะ ตับ และปอด (เมล็ด)
- ช่วยแก้อาการปวดท้อง ด้วยการใช้ใบเพกาต้มกับน้ำดื่ม (ใบ)
- ช่วยแก้อาการจุกเสียกแน่นท้อง (เปลือกต้น)
- ช่วยแก้โรคบิด (เปลือกต้น,ราก)
- เพกา สรรพคุณช่วยรักษาท้องร่วง (เปลือกต้น,ราก,เพกาทั้ง 5 ส่วน)
- ช่วยขับลมในลำไส้ (เปลือกต้น,ใบ)
- ใช้เป็นยาขับถ่าย ช่วยระบายท้อง (เมล็ด)
- ช่วยในการขับผายลม (ฝักอ่อน)
- ช่วยรักษาและบรรเทาอาการของโรคริดสีดวงทวาร ด้วยการใช้เปลือกต้นเพการวมกับสมุนไพรชนิดอื่น (เปลือกต้น)
- ช่วยขับน้ำเหลืองเสีย ทำให้น้ำเหลืองเป็นปกติ(เปลือกต้น,เพกาทั้ง 5 ส่วน)
- เพกา สรรพคุณทางยาช่วยลดการอักเสบ อาการแพ้ต่างๆ (เปลือกต้น)
- สรรพคุณใช้เป็นยาฝาดสมาน ช่วยสมานแผล (เปลือกต้น,เพกาทั้ง 5 ส่วน)
- ช่วยรักษาอาการฟกช้ำ ปวดบวม อักเสบ ด้วยการใช้เปลือกต้นหรือรากเพกากับน้ำปูนใสทาลดบริเวณที่เป็น (เปลือกต้น, ราก, เพกาทั้ง 5 ส่วน)
- สรรพคุณของเพกาช่วยรักษาฝี ลดอาการปวดฝี ด้วยการใช้เปลือกต้นนำมาฝนแล้วทาบริเวณรอบๆบริเวณที่เป็นฝี (เปลือกต้น)
- ช่วยแก้อาการคัน ด้วยการใช้เปลือกต้นเพการวมกับสมุนไพรชนิดอื่น (เปลือกต้น)
- ใช้เป็นยาแก้พิษหมาบ้ากัด ด้วยการใช้เปลือกต้นเพกานำมาตำแล้วพอกบริเวณที่ถูกกัด (เปลือกต้น)
- ช่วยแก้โรคงูสวัด ด้วยการใช้ เปลือกต้นเพกา เปลือกคูณ รากต้นหมูหนุน นำมาฝนใส่น้ำทาบริเวณที่เป็น จะช่วยให้หายเร็วขึ้น (เปลือกต้น)
- เปลือกต้นมีสารสกัดฟลาโวนอยด์ที่มีฤทธิ์ยับยั้งการบีบตัวของกล้ามเนื้อเรียบของหนูทดลอง (เปลือกต้น)
- เปลือกต้นผสมกับสุราใช้กวาดปากเด็ก ช่วยแก้พิษซางได้ (เปลือกต้น)
- แก้โรคไส้เลื่อน (ลูกอัณฑะลง) ด้วยการใช้เปลือกต้นเพกา รากเขยตาย หญ้าตีนนก นำมาตำรวมกันให้ละเอียด แล้วนะไปละลายกับน้ำข้าวเช็ด ใช้ขนไก่ชุบพาด นำมาทาลูกอัณฑะ ให้ทาขึ้นอย่าทาลง (เปลือกต้น)
- ช่วยแก้องคสูตร (โรคที่เกิดเฉพาะในบุรุษ มีอาการเจ็บที่องคชาตและลูกอัณฑะ) ด้วยการใช้เปลือกต้นเพการวมกับสมุนไพรชนิดอื่น (เปลือกต้น)
- ช่วยแก้โรคมานน้ำ หรือภาวะที่มีน้ำขังอยู่ในช่องท้องจำนวนมาก เปลือกต้นผสมกับสมุนไพรชนิดอื่น (เปลือกต้น)
- เปลือกต้นตำผสมกับสุราใช้ฉีดพ่นตามตัวหญิงคลอดบุตรที่ทนอาการอยู่ไฟไม่ได้ ทำให้ผิวหนังชา (เปลือกต้น)
- ช่วยแก้ละอองขึ้นในปาก คอ และลิ้น หรืออาการฝ้าขาวที่ขึ้นในปาก (เปลือกต้นตำผสมกับสุรา)
- ช่วยขับน้ำคาวปลา (เปลือกต้น)
- ช่วยให้มดลูกเข้าอู่เร็วขึ้น (เปลือกต้น)
- ฝักอ่อนใช้รับประทานเป็นผัก (ฝักอ่อน)
- เชื่อว่าการกินเพกาจะไม่ทำให้เจ็บป่วย มีเรี่ยวมีแรงและช่วยบำรุงสมรรถภาพทางเพศอีกด้วย (ฝัก)
- ผงเปลือกผสมกับ ขมิ้นชัน ใช้เป็นยาแก้ปวดหลังของม้าได้ (เปลือก)
- ใช้เมล็ดเพกาผสมกับน้ำจับเลี้ยงดื่ม จะช่วยทำให้มีรสชาติที่กลมกล่อมน่าดื่มมากขึ้น และจะช่วยทำให้ชุ่มคอและรู้สึกสดชื่น (เมล็ด)
- การใส่เปลือกต้นเพกา ลงไปในอาหารจะช่วยแก้เผ็ด แก้เปรี้ยวได้ (ใส่เปลือกต้นผสมกับมะนาว มะนาวก็ไม่เปรี้ยว) (เปลือกต้น)
- ประโยชน์ของเพกา เปลือกของลำต้นนำมาใช้ทำสีย้อมผ้า ซึ่งให้สีเขียวอ่อน (เปลือกต้น)
- ประโยชน์เพกา เนื้อไม้ของเพกามีสีขาวละเอียดมีความเหนียว เหมาะสำหรับนำมาใช้ทำงานแกะสลักต่างๆ
- นิยมรับประทานฝักอ่อนหรือยอดอ่อนของเพกาเป็นผัก ส่วนดอกนิยมนำมาต้มหรือลวกรับประทานร่วมกับน้ำพริก ลาบ ก้อย ยำ หรือจะนำฝักอ่อนไปหั่นตามขวางเป็นชิ้นเล็กๆทำเป็นแกง ผัด หรือทำเป็นก็ได้ (ฝักมีรสขม ต้องนำไปเผาไฟให้สุกจนผิวนอกไหม้เกรียม และขูดผิวที่ไหม้ไฟออกจะช่วยลดรสขมได้)
- เพกา ประโยชน์นำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ในรูปของยาสมุนไพรสำเร็จรูป หรือที่เรียกว่า แคปซูลเพกา ก็สะดวกไปอีกแบบสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการความยุ่งยาก
Credit : Greenerald.com