วิตามินพี (Bioflavonoids)

วิตามินพี (Bioflavonoids)

 

 

 

 

       วิตามินพี หรือ ซีคอมเพล็กซ์ซิตรัสไบโอฟลาโวนอยด์รูตินเฮสเพอริดิน เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ ที่ประกอบไปด้วยซิตริน รูติน เฮสเพอริดิน รวมไปถึงฟลาโวนและฟลาโวนอล มีหน่วยเป็นมิลลิกรัม (มก. หรือ mg.) วิตามินชนิดนี้มีความจำเป็นต่อการทำงานและการดูดซึมของวิตามินซี และช่วยเสริมทำงานเสริมกันกับวิตามินซี ช่วยวิตามินซีในการเพิ่มความแข็งแรงของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน

 

       วิตามินพี มีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า ตัวควบคุมการซึมผ่านของเส้นเลือดฝอย (วิตามินพี ย่อมาจาก Permeability ซึ่งหมายถึง การซึมผ่าน) โดยหน้าที่หลักของไบโอฟลาโวนอยด์ก็คือ เพิ่มความแข็งแรงของเส้นเลือดฝอยและควบคุมการดูดซึมของสารต่างๆ ผ่านผนังเส้นเลือด โดยฟลาโวนอยด์เป็นสารที่ให้สีเหลืองและสีส้มแก่ผลไม้ในกลุ่มส้มและผลไม้รสเปรี้ยวอื่นๆ

 

       แหล่งที่พบวิตามินพีตามธรรมชาติ ได้แก่ ส่วนกากสีขาวของผลไม้รสเปรี้ยวทั้งหลาย เช่น ส้ม มะนาว เกรปฟรุต และพบได้ใน เอพริคอต แป้งบัควีท เชอร์รี่ แบล็กเบอร์รี่ โรสฮิป เป็นต้น

 

       อาการขาดวิตามินพี คือ ผนังเส้นเลือดฝอยเปราะบาง และศัตรูของวิตามินพี ได้แก่ แสง ออกซิเจน ความร้อน การปรุงอาหาร การสูบบุหรี่ น้ำ

 

 

 

 

 

 

คำแนะนำในการรับประทานวิตามินพี

  • วิตามินพีในรูปแบบของอาหารเสริม มีวางจำหน่ายทั้งแบบแยก และแบบรวมกับวิตามินซี เป็นซีคอมเพล็กซ์ ซึ่งส่วนมากแล้วจะมีปริมาณไบโอฟลาโวนอยด์ 500 มิลลิกรัม ต่อรูตินและเฮสเพอริดิน 50 มิลลิกรัม หรือควรมีรูตินมากกว่าเฮสเพอริดินเป็น 2 เท่า
  • วิตามินซีเสริมอาหารทุกรูปแบบ จะทำงานได้ดียิ่งขึ้นหากมีไบโอฟลาโวนอยด์เสริม
  • ขณะนี้ยังไม่มีขนาดที่แนะนำให้รับประทานต่อวันอย่างเป็นทางการ แต่นักโภชนาการเห็นตรงกันว่า ทุกๆ 500 มิลลิกรัม ของวิตามินซีที่เรารับประทานเข้าไป ควรจะได้รับไบโอฟลาโวนอยด์ควบคู่ไปด้วยอย่างน้อย 100 มิลลิกรัม (5:1)
  • ขนาดที่นิยมรับประทาน สำหรับรูตินและเฮสเพอริดินคือ 100 มิลลิกรัม วันละ 3 มื้อ ผลเสียของการรับประทานเกินขนาด ยังไม่พบว่ามีอันตรายต่อร่างกาย หากรับประทานมากกว่าปกติต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน
  • ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนจะมีอาการร้อนวูบวาบน้อยลง หากเพิ่มการรับประทานไบโอฟลาโวนอยด์ร่วมกับวิตามินดี
  • หากคุณมีเลือดซึมบริเวณเหงือกหลังแปรงฟันบ่อยๆ ควรรับประทานรูตินและเฮสเพอริดินให้เพียงพอ
  • ผู้ที่มีอาการฟกช้ำดำเขียวง่าย หากรับประทานวิตามินซีร่วมกับไบโอฟลาโวนอยด์ รูติน เฮสเพอริดิน อาการจะดีขึ้น

 

ประโยชน์ของวิตามินพี

  1. ช่วยเสริมภูมิต้านทาน ป้องกันโรคติดเชื้อได้
  2. ช่วยป้องกันและรักษาโรคเลือดออกตามไรฟันได้
  3. เพิ่มความแข็งแรงให้ผนังเส้นเลือดฝอย จึงป้องกันการเกิดรอยฟกช้ำ
  4. ป้องกันไม่ให้วิตามินซีถูกทำลายจากปฏิกิริยาออกซิเดชั่น
  5. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของวิตามินซีให้ดีขึ้น
  6. ช่วยรักษาอาการบวมน้ำและวิงเวียนศีรษะที่เป็นผลมาจากโรคของหูชั้นใน

 

 

 

 

Credit : Greenerald.com

 1786
ผู้เข้าชม

สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์