เพชรสังฆาต

เพชรสังฆาต

 

 

 

 

       เพชรสังฆาต ชื่อวิทยาศาสตร์ Cissus quadrangularis Linn. จัดอยู่ในวงศ์ Vitaceae มีชื่อท้องถิ่นอื่นๆอีก เช่น

สันชะควด (กรุงเทพ), ขั่นข้อ (ราชบุรี), สามร้อยต่อ (ประจวบคีรีขันธ์)

 

       ประโยชน์ของเพชรสังฆาต ที่โดดเด่นก็คงหนีไม่พ้นการรักษาโรคริดสีดวงทวาร โดยมีงานวิจัยของ พญ. ดวงรัตน์ เชี่ยวชาญวิทย์ และคณะได้ประเมินประสิทธิภาพของสมุนไพรเพชรสังฆาตกับผู้ป่วยที่เป็นโรคริดสีดวงทวารจำนวน 121 คน เปรียบเทียบกับยาแผนปัจจุบันอย่าง ดาฟลอน (Daflon) โดยผลการวิจัยพบว่าค่าเฉลี่ยคะแนนของการประเมินผลของสมุนไพรเพชรสังฆาตกับยาดาฟลอนไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และที่สำคัญยังพบว่าค่าใช้จ่ายของยาแคปซูลเพชรสังฆาตถูกกว่ายาดาฟลอนถึง 20 เท่าอีกด้วย ผลการวิจัยนี้จึงสรุปได้ว่าแคปซูลเพชรสังฆาตสามารถใช้ทดแทน

ยาดาฟลอนในการรักษาโรคริดสีดวงทวารได้เป็นอย่างดี

 

       แต่สรรพคุณในการรักษาริดสีดวงของสมุนไพรเพชรสังฆาตใช่ว่าจะรักษาริดสีดวงได้หายขาดเสมอไป การจะหายช้าหรือเร็วก็ยังขึ้นอยู่กับอาการว่าเป็นมากหรือน้อยแค่ไหนด้วย รวมไปถึงนิสัยการรับประทานอาหาร การดูแลตัวเองด้วยว่าคุณหมั่นรับประทานผักหรืออาหารที่เส้นใยมากน้อยแค่ไหน และสำหรับที่เป็นมากในระดับหนึ่งแล้ว ไม่ว่าจะเพชรสังฆาตหรือ

ยาดาฟลอนก็ช่วยแค่บรรเทาอาการของโรคเท่านั้น ต้องผ่าตัดอย่างเดียวครับ

 

 

 

 

 

 

สรรพคุณของเพชรสังฆา

 

  1. เพชรสังฆาต ใช้ปรุงเป็นยาธาตุช่วยให้เจริญอาหาร (น้ำจากต้น)
  2. น้ำจากต้นเพชรสังฆาตใช้หยอดหู แก้น้ำหนวกไหล (น้ำจากต้น)
  3. น้ำจากต้นเพชรสังฆาตใช้หยอดจมูก แก้เลือดเสียในสตรี ประจำเดือนไม่ปกติ (น้ำจากต้น)
  4. ช่วยขับน้ำเหลืองเสีย (ต้น)
  5. ใช้เถาเพชรสังฆาตคั้นเอาน้ำมาดื่มแก้โรคลักปิดลักเปิด หรือโรคเลือดออกตามไรฟันได้ (เถา,น้ำคั้นจากต้น)
  6. ช่วยรักษาโรคลำไส้ที่เกี่ยวกับอาหารไม่ย่อย (ใบยอดอ่อน)
  7. เพชรสังฆาต สรรพคุณช่วยขับลมในลำไส้ (เถา)
  8. แก้อาการประจำเดือนมาไม่ปกติ (เถา,น้ำคันจากต้น)
  9. แก้กระดูกแตก หัก ซ้น (เถา)
  10. ใช้เป็นยาพอกเมื่อกระดูกหัก (ใบ,ราก)
  11. สรรพคุณเพชรสังฆาตใช้เป็นยารักษาริดสีดวง
    • ด้วยการใช้เถาเพชรสังฆาตสดๆ ประมาณ 2-3 องคุลีต่อหนึ่งมื้ออาหาร นำรับประทานด้วยการสอดไส้ในกล้วยสุก หรือมะขามเปียก หรือใบผักกาดดองแล้วกลืนลงไป ห้ามเคี้ยว เนื่องจากสมุนไพรชนิดนี้จะมีผลึก Calcium Oxalate รูปเข็มเป็นจำนวนมาก การรับประทานสดๆอาจทำเกิดอาหารคันในปาก ระคายต่อเยื่อบุ    ในปาก และในลำคอได้ และการรับประทานจะใช้ระยะเวลาประมาณ 10-15 วัน อาการของโรคริดสีดวงก็จะดีขึ้น (เถา)
    • หรือจะใช้เถาแห้งนำมาบดเป็นผง ใส่แคปซูลเบอร์ 2 ขนาด 250 มิลลิกรัม รับประทานครั้งละ 2 แคปซูล     วันละ 4 ครั้งก่อนอาหารและช่วงก่อนนอน รับประทานไปสัก 1 อาทิตย์ก็จะเห็นผล (เถา)

 

 

 

 

Credit : Greenerald.com

 2679
ผู้เข้าชม

สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์