งานวิจัยจากต่างประเทศหลายเรื่องให้ข้อมูลว่า ชาดอกกระเจี๊ยบ มีสรรพคุณช่วยลดความดันโลหิต และป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ เช่น งานวิจัยของมหาวิทยาลัยทัฟส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ทดลองให้อาสาสมัครซึ่งเข้าข่ายเสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูงจำนวน 65 คน อายุระหว่าง 30 - 70 ปี ดื่มชาดอกกระเจี๊ยบวันละ 3 แก้ว (แก้วละ 240 มิลลิลิตร) ต่อเนื่องเป็นเวลา 6 สัปดาห์ ผลปรากฏว่า อาสาสมัครทั้งหมดมีค่าความดันโลหิตเฉลี่ยลดลง โดยค่าความดันโลหิตตัวบนลดลง 7.2 มิลลิเมตรปรอท และ ความดันโลหิตตัวล่างลดลง 3.1 มิลลิเมตรปรอท นักวิจัยอ้างถึงข้อมูลจากการศึกษาก่อนหน้านี้และสรุปว่า ชาดอกกระเจี๊ยบช่วยขับปัสสาวะจึงทำให้ความดันโลหิตลดลง
นอกจากนี้ การศึกษาในวารสาร Ethnopharmacol ซึ่งทดลองให้ ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงดื่มชาดอกกระเจี๊ยบ โดยต้มชาแห้ง 2 ช้อนโต๊ะ กับน้ำ 1 แก้ว (ปริมาตร 250 มิลลิลิตร) นาน 2-3 นาที กรองแต่น้ำดื่มวันละ 1 ครั้ง ติดต่อกัน 12 วัน พบว่าความดันโลหิตตัวบนและตัวล่าง ลดลงถึง 11.2 และ 10.7 เปอร์เซ็นต์
กระเจี๊ยบ กำราบไขมัน ปกป้องหัวใจ
ไขมันในเลือดสูงเป็นสาเหตุสำคัญของโรคหัวใจและหลอดเลือดหัวใจตีบ ซึ่งอาจนำไปสู่การเสียชีวิตอย่างเฉียบพลัน วารสาร Nutrition Research ตีพิมพ์ข้อมูลการวิจัยเกี่ยวกับการ ลดไขมัน ป้องกันโรคหัวใจ โดยทำการทดลองกับชาวไต้หวันที่มีปัญหาคอลเลสเตอรอลสูง จำนวน 42 คน อายุระหว่าง 18 - 72 ปี พบว่าเมื่อได้รับสารสกัดจากดอกกระเจี๊ยบ ทุกคนมีระดับคอเลสเตอรอลลดลงภายใน 2 สัปดาห์ และภายหลัง 4 สัปดาห์ อาสาสมัคร 70 เปอร์เซ็นต์มีระดับคอเลสเตอรอลดลงอยู่ในระดับที่น่าพอใจ
นักวิจัยมีความเห็นว่า สารสกัดจากดอกกระเจี๊ยบช่วยลดระดับไขมันในเลือดได้ แต่จำเป็นต้องมีการศึกษาในกลุ่มทดลองที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อยืนยันผลการศึกษาต่อไป ความดันโลหิตลดลง หัวใจแข็งแรงทันที หากรู้จักใช้ประโยชน์จากดอกกระเจี๊ยบ ทั้งไม่ลืมกินผักผลไม้หลากสี และธัญพืชไม่ขัดขาวเพื่อให้ใยอาหารสูงร่วมด้วยทุกวันค่ะ
วิธีทำชาดอกกระเจี๊ยบ
- ใช้กระเจี๊ยบแดงอบแห้งหรือตากแห้ง หักเป็นชิ้นเล็กๆ หรือบดหยาบ หรือเป็นผง ประมาณ 3 กรัมวางในแก้วชา
- ลวกชากระเจี๊ยบด้วยน้ำร้อนเททิ้งก่อน 1 รอบเพื่อล้างตะกอนธรรมชาติออกก่อน
- เทน้ำร้อนลงในแก้วชา ประมาณ 250 มล.
- ทิ้งไว้1นาที กรองดอกกระเจี๊ยบออก รอให้เย็นลงนิดหน่อยก็ดื่มได้เลยค่ะ อาจใส่น้ำตาล น้ำผึ้ง น้ำมะนาว ตามชอบ
Credit : cheewajit.com, chiangmaiteashop.com (สูตรชา), รูปจาก kapook.com
