สับปะรด ภาษาอังกฤษ คือ “Pineapple” และสับปะรดชื่อวิทยาศาสตร์ คือ “Ananas Comosus” โดยสับปะรดนั้น ทางภาค อีสานจะเรียกว่า “บักนัด” ส่วนภาคเหนือจะเรียกว่า “มะนัด , มะขะนัด , บ่อนัด” และภาคใต้จะเรียกว่า
“ย่านัด , ขนุนทอง”
สับปะรด มีต้นกำเนิดมาจากทวีปอเมริกาใต้ มีความ ทนทานต่อสถาพแวดล้อมต่างๆ ได้ดี และจัดว่าเป็นผลไม้เศรษฐกิจของบ้านเราด้วย แหล่งปลูกที่สำคัญๆมักจะอยู่ใกล้ๆทะเล เช่น ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ชลบุรี หรืออุตรดิษถ์ ลำปาง พิษณุโลก เป็นต้น สำหรับพันธุ์ที่นิยมปลูกในบ้านเราก็มีหลายสายพันธุ์ เช่น พันธุ์ปัตตาเวีย(สัปปะรดศรีราชา ผลใหญ่
เนื้อฉ่ำสีเหลืองอ่อน), พันธุ์อินทรชิต (หรือพันธุ์พื้นเมือง), พันธุ์ภูเก็ต (ผลเล็กเปลือกหนา เนื้อสีเหลือง หวานกรอบ),
พันธุ์นางแล (พันธุ์น้ำผึ้งเนื้อจะเข้มเหลือง รสออกหวานจัด) เป็นต้น
สับปะรด จัดเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพอีกชนิดหนึ่ง โดยประโยชน์ของสับปะรดนั้นมีอยู่หลากหลาย เพราะอุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินต่างๆ จำนวนมาก ซึ่งได้แก่ คาร์โบไฮเดรต วิตามินซี วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินบี3 วิตามินบี5
วิตามินบี6 กรดโฟลิกธาตุแคลเซียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุแมกนีเซียม ธาตุแมงกานีส ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก
ธาตุสังกะสี เป็นต้น ซึ่งเหล่านี้ถือว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายและสุขภาพเราเป็นอย่างมาก และสรรพคุณสับปะรดทางสมุนไพรนั้น ก็ชวยรักษาอาการต่างๆ ได้อย่างหลากหลายเช่นกัน เช่น โรคบิด โรคนิ่ว ช่วยบรรเทาอาการแผล เป็นหนอง ขับปัสสาวะ เป็นต้น
การรับประทานสับปะรดแนะนำให้ทานสดๆ ไม่ผ่านกระบวนการประกอบอาหารหรือผ่านความร้อนเพื่อป้องกันการสูญเสียวิตามิน โดยสับปะรดที่เริ่มนิ่มแล้วและมีน้ำเหนียวๆ ไหลออกมา แสดงว่าเริ่มเน่าหรือสุกมากจนเกินไป จึงไม่ควรรับประทาน
ประโยชน์ของสับปะรด
Credit : Greenerald.com