กะหล่ำดอก
เป็นผักที่ได้รับความนิยมสูงในการนำมารับประทาน หรือประกอบอาหาร ไม่ว่าจะเป็นอาหารระดับโรงแรม ระดับภัตตาคาร หรือในร้านข้าวแกง รวมไปถึงในครัวของแต่ละบ้าน สามารถใช้ประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู เช่น ผัด แกง หมักดอง หรืออื่น ๆ เนื่องมาจากผักชนิดนี้มีรสชาติอร่อย กรอบหวาน ดอกเป็นสีเหลืองดูน่ารับประทาน นอกจากนี้ยังมีประโยชน์และสรรพคุณมากมายที่ดีต่อร่างกาย มาดูกันเลยค่ะ
ประโยชน์ของกะหล่ำดอก
- กะหล่ำดอกอุดมสารเอนไซม์ที่ช่วยต่อสู้กับมะเร็ง เช่น
- สารซัลโฟราเฟน (sulforaphane) ช่วยต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง
- กรดโฟลิกและคูมารีน (folic acid & coumarin) ช่วยป้องกันโรคมะเร็งลำไส้และมะเร็งเต้านม
- สารอินโดล ทรี คาร์บินอล (indole-3-carbinol) ช่วยป้องกันมะเร็งเต้านม
- กะหล่ำดอกมีสารที่ช่วยดึงสารก่อมะเร็งที่เรียกว่าคาร์ซิโนเจน (carcinogens) ออกจากเซลล์
- กะหล่ำดอกมีวิตามินซีสูง สามารถช่วยป้องกันและรักษาหวัด โรคเลือดออกตามไรฟัน ช่วยฟื้นฟูสภาพร่างกาย ทำให้ผู้ที่อ่อนแอหรือผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็ว
- กะหล่ำดอกอุดมไปด้วยโคลีน (Choline) ซึ่งมีบทบาทในการพัฒนาและบำรุงสมองของทารกในครรภ์
- กะหล่ำดอกอุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร จึงช่วยในการขับถ่าย ขับล้างสารพิษในร่างกาย
- กะหล่ำดอกช่วยต้านการอักเสบ ช่วยป้องกันโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง
- วิตามินยูเป็นวิตามินที่พบได้ในพืชตระกูลกะหล่ำ ช่วยลดอัตราเสี่ยงของมะเร็งที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนเพศหญิงได้ เช่น มะเร็งปากมดลูก มะเร็งรังไข่ และมะเร็งเต้านม เป็นต้น
กะหล่ำดอก ลดความเสี่ยงจากโรคหัวใจและหลอดเลือด
โรคหัวใจและหลอดเลือดอาจเป็นผลมาจากความเสื่อมของร่างกายจากการใช้ชีวิตประจำวัน การเลือกรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น สารแคโรทีนอยด์ ฟลาโวนอยด์ วิตามินต่าง ๆ อย่างกะหล่ำดอก อาจช่วยต้านการอักเสบและชะลอความเสื่อมของร่างกายได้ ซึ่งจากงานวิจัยหนึ่งที่ติดตามการรับประทานอาหารของอาสาสมัครชาวจีนชายและหญิงจำนวน 134,796 คน เป็นเวลา 4-10 ปี พบว่าผู้ที่ไม่บริโภคผักตระกูลกะหล่ำ หรือผลไม้ มีอัตราเสี่ยงในการเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือดสูงกว่าผู้ที่บริโภคเป็นประจำ จึงอาจกล่าวได้ว่า การรับประทานผักตระกูลกะหล่ำควบคู่กับผักชนิดต่าง ๆ และผลไม้เพิ่มมากขึ้น อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด และช่วยให้มีสุขภาพดี มีชีวิตที่ยืนยาวขึ้นได้
ข้อควรระวังในการรับประทาน กะหล่ำดอก
ในปัจจุบัน มีข้อมูลเกี่ยวกับปริมาณที่เหมาะสมและความปลอดภัยในการบริโภคกะหล่ำดอกค่อนข้างน้อย โดยเฉพาะข้อมูลด้านการรักษาหรือป้องกันโรคซึ่งยังไม่อาจสรุปประสิทธิภาพในแต่ละด้านได้อย่างแน่ชัด ผู้บริโภคจึงควรคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก โดยมีข้อควรระวังในการรับประทานกะหล่ำดอก ดังต่อไปนี้
การรับประทานกะหล่ำดอกในปริมาณปกติจากมื้ออาหารทำให้ได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและไม่ทำให้เกิดอันตราย แต่ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลที่รับรองความปลอดภัยหากรับประทานกะหล่ำดอกในปริมาณมากหรือติดต่อกันเป็นเวลานาน จึงควรรับประทานแต่ในปริมาณที่พอดี ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือแน่นท้อง ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานกะหล่ำดอก เพราะอาจทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะได้มาก กะหล่ำดอกมีสารพิวรีนอยู่ในระดับปานกลาง จึงไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเก๊าท์ เพราะอาจกระตุ้นให้อาการของโรคแย่ลง สารอาหารสำคัญในกะหล่ำดอกอาจสูญสลายได้ง่ายและละลายไปกับน้ำเมื่อโดนความร้อน การนำกะหล่ำดอกไปทำอาหารจึงควรใช้ความร้อนต่ำและใช้ระยะเวลาทำไม่นานเกินไป เพื่อคงคุณค่าสารอาหาร ป้องกันการเสียรสชาติและเกิดกลิ่นไม่น่ารับประทาน เนื่องจากกะหล่ำดอกมีสารประกอบของกำมะถันที่อาจส่งกลิ่นเหม็นเมื่อปรุงอาหารนาน ๆ