ประโยชน์ของชะอม
บำรุงสายตา เพราะชะอมอุดมไปด้วยวิตามินเอ ช่วยต่อสู้กับอนุมูลอิสระในร่างกายได้เป็นอย่างดี
มีใยอาหารสูง จึงช่วยระบายท้อง แก้อาการท้องผูก ทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น
ลดความร้อนในร่างกาย ด้วยการนำยอดอ่อนมารับประทาน ส่วนนี้เป็นส่วนที่นิยมรับประทานกันมากที่สุด
ช่วยขับลมในกระเพาะอาหาร ช่วยลดลมในกระเพาะ ทำให้คลายจากอาการท้องอืดท้องเฟ้อได้
บำรุงเส้นเอ็น ป้องกันไม่ให้เส้นเอ็นเสื่อมได้ง่ายๆ และยังช่วยให้เส้นเอ็นแข็งแรงอีกด้วย
แคลเซียมสูง เป็นผลดีกับผู้หญิงวัยทองที่กำลังจะเข้าสู่ภาวะกระดูกพรุน ชะอมสามารถช่วยได้ เพราะอุดมไปด้วยแคลเซียมที่เป็นผลดีกับกระดูกและฟัน
รักษาการอักเสบ เช่น อาการอักเสบที่ลิ้น และลดอาการผื่นแดง
มีฟอสฟอรัสสูง ฟอสฟอรัสจะช่วยให้วิตามินต่างๆ ทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพเต็มที่
อุดมด้วยธาตุเหล็ก โดยจะช่วยในการบำรุงเลือด ช่วยให้ระบบการหมุนเวียนไปหล่อเลี้ยงร่างกายได้ดีขึ้น
ป้องกันโรค เนื่องจากมีวิตามินซี ชะอมจึงมีฤทธิ์เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายได้ การป้องกันโรคต่างๆ ก็เป็นไปได้ง่ายขึ้น
มีเบต้าแคโรทีน ซึ่งสามารถช่วยต่อต้านการเกิดมะเร็งและช่วยป้องกันโรคหัวใจ อีกทั้งยังช่วยบำรุงผิวพรรณให้ดูมีน้ำมีนวล อ่อนเยาว์ ไม่ดูแก่ก่อนวัย
บำรุงเส้นผม ช่วยบำรุงให้เส้นผมเงางาม มีน้ำหนักเป็นธรรมชาติ และลดการแตกปลายของเส้นผมได้
ข้อควรระวัง
- สตรีที่กำลังให้นมบุตร ไม่ควรรับประทาน เพราะชะอมมีฤทธิ์ที่ทำให้น้ำนมลดน้อยจนถึงแห้งได้
- ก่อนนำชะอมมารับประทานควรล้างทำความสะอาดให้ดีและควรปรุงให้สุกก่อนที่จะรับประทาน จะได้ไม่เสี่ยงที่จะได้รับเชื้อSalmonellaซึ่งเป็นเชื้อที่พบมากในดิน อากาศ หรือน้ำซึ่งอาจติดมาได้กับชะอม หากรับประทานเชื้อนี้เข้าไป อาจทำให้ท้องเสียปวดท้อง ถ่ายเหลวหรือถ่ายเป็นมูกได้
- คนที่เป็นโรคเกาต์ไม่ควรรับประทานชะอมในปริมาณที่มากหรือไม่ควรทานเลย เพราะในชะอมมีพิวลีนสูง ซึ่งพิวลีนจะเปลี่ยนเป็นกรดยูริก อันเป็นสาเหตุที่ทำให้ข้ออักเสบ ส่งผลให้ผู้ป่วยโรคเกาต์ยิ่งปวดกระดูกมากขึ้น
- ควรรับประทานชะอมในหน้าร้อน เพราะชะอมจะมีรสชาติดีกว่าหน้าฝนที่มีรสชาติเปรี้ยวและกลิ่นแรง
